โรคพิษสุนัขบ้า หรือที่ชาวบ้านทั่วไปรู้จักกันว่า โรคกลัวน้ำ  เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ  เรบี่ส์ไวรัส (Rabies  Virus) เมื่อเชื้อนี้เข้าสู่ร่างกายคนหรือสัตว์แล้วจะเดินทางไปตามเส้นประสาทเข้าสู่สมองที่สำคัญ เมื่อเกิดอาการขึ้นแล้วไม่สามารถรักษาให้หายได้แต่โรคนี้ป้องกันได้และสามารถทำให้หมดไปจากคนและสัตว์เลี้ยงในหลายประเทศยังมีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ควบคุมโรคในสุนัขไม่ได้ในปี พ.ศ. 2549 กลุ่มสหวิชาชีพทั่วโรคได้ร่วมกันก่อตั้งองค์กรเพื่อการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งต่อมาได้มีการกำหนดให้มีวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก ขึ้นในเดือนกันยายน เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวต่อการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า มีความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงสุนัขและป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าปัจจุบันองค์การอนามัยโลกและองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศร่วมสนับสนุนพร้อมใจกันกำหนดให้วันที่ 28 กันยายนของทุกปี เป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก

โรคพิษสุนัขบ้าไม่ได้เกิดกับสุนัขเท่านั้น
     ชื่อของโรคทำให้เข้าใจกันผิดคิดว่าโรคนี้เกิดกับสุนัขเท่านั้นแท้ที่จริงแล้วโรคนี้เกิดกับสัตว์เลือดอุ่นด้วยโดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น แมว,ชะนี,ลิง,กระรอก, กระแต,หนู,ค้างคาว แม้แต่สัตว์เศรษฐกิจอย่าง วัว,ควาย,ม้า,สุกร พบในตัวที่มีประวัติเคยถูกสุนัขบ้ากัดมาก่อนหรือสุนัขเป็นตัวแพร่เชื้อที่สำคัญมากที่สุดกว่า 95% ของผู้เสียชีวิตมีสาเหตุมาจากสุนัข รองมาคือ  แมว

การติดต่อของโรคพิษสุนัขบ้า
   สุนัขและแมวที่ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้า  สามารถแพร่เชื้อได้ทางน้ำลาย  เพราะเชื้อจะออกมาในน้ำลายเป็นระยะตั้งแต่ 1-7 วัน ก่อนแสดงอาการคนเราจะติดเชื้อนี้ก็ต่อเมื่อ ถูกสัตว์ที่เป็นโรคนี้กัดหรือข่วนหรือถูกสัตว์ที่เป็นโรคนี้เลีย น้ำลายสัตว์กระเด็นเข้าแผล จมูก  ปาก ถ้าน้ำลายถูกผิวหนังปกติไม่มีรอยข่วนหรือบาดแผลไม่มีโอกาสติดโรค

อาการที่พบในสัตว์
   สุนัข ที่แสดงอาการแบบดุร้ายแสดงอาการในระยะตื่นเต้นให้เห็นเด่นชัดและยาวนาน  แต่จะแสดงอาการในระยะอัมพาตสั้นมากที่แสดงอาการแบบซึมจะแสดงอาการในระยะตื่นเต้นสั้นมากจนไม่ทันสังเกตุเห็นแต่จะแสดงอาการในระยะอัมพาตเด่นชัด
    แมว อาการคล้ายสุนัขแต่ไม่ชัดเจนและพบอาการแบบดุร้ายมากกว่าซึมแบบสุนัขและแมวที่เป็นโรคพิษสุขบ้า
    โคกระบือ อาการจะตื่นเต้น กระสับกระส่าย เดินโซเซ มักมีอาการคล้ายมีอะไรติดคอ  น้ำลายไหลยืด  ท้องอืดป่อง  อัมพาตและตา

เมื่อถูกกัดทำอย่างไร
    1.รีบล้างแผลให้เร็วที่สุดด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลายๆครั้ง ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อจะทำให้เชื้อโรคต่างๆบริเวณนั้นหลุดออกจากแผลไปตามน้ำไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าหรือเชื้อโรคอื่นๆแล้วเช็ดแผลให้แห้งใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น โพวิโดนไอโอดีน ถ้าไม่มีอาจใช้แอลกอฮอล์ 70% หรือทิงเจอร์ไอโอดีนหรือยาฆ่าเชื้ออื่นๆ เป็นต้น
    2.จดจำลักษณะและสังเกตอาการสัตว์ที่กัดรวมทั้งติดตามหาเจ้าของเพื่อซักถามประวัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่มาของสัตว์และสังเกตอาการสัตว์ที่กัด10วัน
    3.ไปพบแพทย์เพื่อรับการป้องกันรักษาที่ถูกต้องถ้ามีความเสี่ยงต่อโรคพิษสุนัขบ้า  แพทย์จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้

ข่าว ณ. วันที่ 15 มิ.ย. 2565 เวลา 15.11 น. โดย คุณ สุรีย์มาศ ดาวเรือง

ผู้เข้าชม 103 ท่าน